@ "วรเจตน์" ฝ่าศึกสหบาทา: ร้องว่าผมเนรคุณ แต่คุณยืนให้สูงเพื่อบอกว่าจงรักภักดี โดยเหยียบหัวผมขึ้นไป
@ 81 ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร...‘ดรัมเมเยอร์-ไทยแลนด์แบนด์’
@ เมื่อผมไปอเมริกาครั้งแรกเมื่อเดือน มกราคมปี 1972.....ผมมีเงินติดตัวไป $80.00
@ 82 ชีวิตหมอที่ไม่ได้ไปอเมริกา By: kimeng suk
@ 54... "นายกฯปู" สวมชุดนักบินเหินฟ้าชมการใช้กำลังทางอากาศ
@ สถานีรถไฟจีน แล้วลองย้อนมาดูเรา...
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน บรูไน, อินโดนีเซีย, กัมพูชา, ลาว, เมียนมาร์ ชุดที่1
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เวียดนาม ชุดที่2
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน สิงคโปร์ ชุดที่3
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน อินเดีย ชุดที่4
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ฟิลิปปินส์ ชุดที่5
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์ร่วมประชุมที่สวิสเซอร์แลนด์ ชุดที่6
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน มาเลเซีย ชุดที่7
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน ญี่ปุ่น ชุดที่8
@ ภาพชุดนายกฯยิ่งลักษณ์เยี่ยมเยือน เกาหลีใต้ ชุดที่9
@ 55... มาร์คครับ หยุดใช้วาทกรรมแก้รัฐธรรมนูญทำให้สังคมเกิดความขัดแย้งเลยครับ
@ สุดยอดไปเล้ย ก้อคุณพี่ทิศใต้นะสิคะ บอกไม่กลับบ้านก็ได้ทุกวันนี้สบายดี
@ 11 "ปู"พา"ไปป์"ไปญี่ปุ่นด้วย ให้พี่เลี้ยงพาเที่ยวแทน
@ 12 เคยเห็นมั้ย!! แมงสาปดิ้นใน"บ้านทรายทอง"กรุงโตเกียวญี่ปุ่นโน่น...
@ นิก นอสติทซ์ "ผมมาทำตามหน้าที่ของความเป็นมนุษย์"
@ สิ่งสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งในใจของคนเป็นหมอ...คือการได้ทำตามคำสั่งสุดท้ายของคนไข้นั่นเอง
@ อาข่า...พาไปชมตลาด...มาดูว่าข้าวของไม่ได้แพงอย่างสลิ่มว่านะ
@ ตอแหล ตลบตะแลง กวนตีน สิ่งที่ไอ้ฟักและพรรคของมันคิดว่าเท่เหลือเกินในสภา
คลิกที่ภาพ...เพื่อดูขนาดที่ใหญ่ขึ้น @ โหลดเก็บไว้ในcomเชิญคลิกที่นี่...
ยาจีนโบราณ ไข่ไก่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมัก กินแล้วหายหลายโรค
(เก็บความจากเอกสารที่ได้รับความเอื้อเฟื้อจากอาจารย์ ดร.ธงชัย สมครุฑ)
ประวัติ: ไข่ไก่ดิบดองน้ำส้มสายชูหมักเป็นตำรายาโบราณของจีนในสมัยพระเจ้าฉินซีฮ่องเต้ ได้สืบทอดต่อมาจนปัจจุบันนี้ ได้เผยแพร่ไปทั่วประเทศในแถบเอเชียและในหมู่ชาวจีนในประเทศสหรัฐอเมริกา ผู้ที่นำตำรามาเผยแพร่คนแรกได้นำยามาทานเองและแนะนำให้เพื่อนฝูงทานด้วย ได้ผลดีเหมือนปาฏิหาริย์ สามารถรักษาโรคได้หลายโรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคของผู้สูงอายุ ผู้เผยแพร่ทานยาไปแล้วกว่า 100 ฟอง ได้ผลดีเหมือนอย่างกับหนังกำลังภายใน
สรรพคุณ: รักษาโรคเส้นโลหิตหัวใจตีบ เลือดข้นและเหนียว เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ความดันโลหิตต่ำ ลดไขมันในเลือด (ทั้งคลอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์) ไทรอยด์ อัมพฤกษ์หรืออัมพาตอันเนื่องจากเส้นโลหิตในสมองตีบ ละลายหินปูน อาการเมื่อย ชา ตึง ปวดและบวมทั่วร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณขาด้านหน้าและด้านหลัง ปวดเข่า ปวดหลัง ขาไม่มีแรง (ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากหินปูนที่งอกพอกกระดูกสันหลังเบียดหรือทับเส้นประสาท) โรคข้ออักเสบ (เช่น ข้อนิ้วมือแข็งและงอไม่ลง) ไหล่ติด อาการหน้ามืดบ่อยๆ หมดความรู้สึกทางเพศ ทำให้หลอดเลือดสะอาด เลือดหมุนเวียนได้สะดวก สร้างภูมิต้านทานให้แก่ร่างกาย ไม่เกิดสิว แผลสดจะหายเร็วกว่าปกติ
ตัวยา: ไข่ไก่ดิบประมาณ 10 ฟอง ขนาดเล็กเบอร์3 หรือเบอร์4 ห้ามแช่เย็นมาก่อน ถ้าใช้ไข่จะเน่าเสียทั้งหมด (เสียทั้งน้ำส้ม ไข่ และเวลา) น้ำส้มสายชูหมักจากข้าวหรือผลไม้ (น้ำส้มสายชูหมักมีสีคล้ายกับสีของน้ำชาอ่อน ไม่ใสเหมือนน้ำส้มสายชูกลั่น) เช่นน้ำส้มสายชูหมัก ตราคิวพี ตราเรือใบ ตราDiamond ตราChinni ซึ่งมีขายตามตลาดหรือร้านขายของชำต่างๆ นอกจากนี้ยังมีขายในฟู้ดแลนด์ (ยี่ห้ออื่น)
Comment: น้ำส้มสายชูหมักจากข้าว หรือผลไม้ต่างๆ (มีวิตามินซีสูงมาก) ที่มีคุณภาพเหมาะสมต้องมีกรดน้ำส้มอยู่ประมาณร้อยละ 4.2-4.5 และต้องทำให้เปลือกไข่นิ่มหลังจากดองได้1-2 วัน อาจสังเกตเพิ่มเติมได้ว่าทันทีที่เริ่มดอง จะมีฟองอากาศเล็กๆ จำนวนมากผุดออกมาจากเปลือกไข่ส่วนที่สัมผัสกับน้ำส้มสายชูหมัก
การเตรียมยา: ล้างไข่ไก่ให้สะอาด แล้วนำไปดองในขวดโหลซึ่งบรรจุน้ำส้มสายชูหมัก โดยให้น้ำส้มสายชูหมักท่วมไข่เป็นเวลา 72 ชั่วโมง หรือนานกว่าก็ได้ เปลือกไข่จะยุ่ยเหมือนแป้ง ไข่จะนิ่มทั้งฟอง ภายในหนึ่งหรือสองวันแรกไม่ควรปิดฝาขวดให้แน่น ทั้งนี้เพื่อให้แก๊สที่เกิดขึ้นระบายสู่บรรยากาศได้โดยง่าย หลังจากนั้นควรปิดฝาขวดโหลไว้
การรับประทานยา: นำไข่ซึ่งนิ่ม 1 ฟอง เปิดน้ำประปารดไข่พร้อมกับใช้นิ้วลูบเปลือกไข่เบาๆ เปลือกไข่จะยุ่ยหลุดออกมาเหมือนแป้งจนหมด เหลือเพียงเยื่อใสๆ ซึ่งหุ้มไข่ขาวและไข่แดงอยู่ภายใน นำไข่ใส่ภาชนะ เจาะเยื่อหุ้มไข่ นำทั้งไข่ขาวและไข่แดงมารับประทานหลังอาหารวันละครึ่งหรือหนึ่งฟอง (ถ้ารับประทานยาก จะผสมกับน้ำส้มคั้น น้ำผึ้ง เซเว่นอัพ สไปรท์หรือเป็บซี่ ก็ได้) แล้วทานน้ำมะนาวหรือของเปรี้ยวอื่นๆ ชิ้นเล็กๆ ตบท้าย หลังจากรับประทานแล้วให้ดื่มน้ำอุ่นหรือน้ำธรรมดาให้มากๆ ทั้งวันเพื่อระบายของเสีย ถ้าอาการหายดีแล้วควรรับประทานเป็นประจำ แต่ลดยาลงเหลืออาทิตย์ละ 2 ฟอง
ถ้ารับประทานติดต่อกันหลายวัน อาจมีอาการร้อนใน เช่น ปากเป็นเม็ด ริมฝีปากแห้ง หรือมีขี้ตา เป็นต้น ควรหยุดทานยาชั่วคราว แล้วแก้อาการร้อนในด้วยการรับประทานยาเขียวตราใบห่อชนิดระบายอ่อนๆ ในบางกรณีอาการปวดหรือชาอาจเป็นมากขึ้นภายในหนึ่งหรือสองวัน ให้อดทนรับประทานยาต่อไป ซึ่งโดยทั่วไปแล้วอาการจะดีขึ้นๆหลังจากนั้น
สาระน่ารู้: น้ำส้มสายชูตามพระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ.2522 แบ่งออกเป็น 3 ชนิดคือ
(1) น้ำส้มสายชูหมัก คือน้ำส้มสายชู ที่ทำจากการหมักธัญพืช ผลไม้หรือน้ำตาลกับส่าเหล้าแล้วหมักกับเชื้อน้ำส้มสายชูตามกรรมวิธีธรรมชาติ
(2) น้ำส้มสายชูกลั่น คือน้ำส้มสายชูที่ทำจากการหมักแอลกอฮอล์กลั่นเจือจาง (Dilute Distilled Alcohol) กับเชื้อน้ำส้มสายชู
(3) น้ำส้มสายชูเทียม คือน้ำส้มสายชู ที่ทำจากการเอากรดน้ำส้ม (Acetic Acid) มาเจือจางกับน้ำ
ถึงแม้ว่า คุณสมบัติในการปรุงอาหารของน้ำส้มสายชูทั้ง 3 ชนิดจะคล้ายคลึงกัน แต่พ่อค้าและผู้บริโภคส่วนใหญ่นิยมใช้น้ำส้มสายชูเทียม เนื่องจากน้ำส้มสายชูหมักและน้ำส้มสายชูกลั่นมีราคาสูงกว่า การเก็บรักษาทำได้ยากกว่า ถ้าเก็บรักษาไม่ดี อาจเกิดหนอนน้ำส้ม (Vinegar eels) และความเปรี้ยวลดลง
ส่วน น้ำส้มสายชูเทียม ซึ่งราคาถูก หาซื้อง่ายขณะเดียวกันการปลอมปนก็ทำได้ง่าย น้ำส้มสายชูปลอม คือ น้ำส้มสายชูที่ทำจากกรดกำมะถันหรือกรดที่มีความบริสุทธิ์ไม่เพียงพอ ซึ่งผู้ผลิตบางรายนำน้ำมาผสม และจำหน่ายในรูปของน้ำส้มสายชู ซึ่งแม้ว่าจะมีรสเปรี้ยวเหมือนน้ำส้มสายชูทั่วไปแต่เมื่อบริโภคแล้วอาจเกิดอันตรายต่อกระเพาะอาหารและลำไส้
วิดีโอสอนการทำน้ำหมักป้าเช็ง SuperCheng TV ฉบับเต็ม 1.58 ช.ม.
วิธีทำน้ำส้มสายชูหมักสับปะรด ทำตามสูตรป้าเชง แค่เปลี่ยนผลไม้เป็นสับปะรดหั่นชิ้นเล็กๆทั้งเปลือก พอครบ 3 เดือนหรือยิ่งนานก็ยิ่งดี ตักน้ำหมัก 1 ช้อนโต๊ะผสมน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะน้ำเปล่าหนึ่งแก้ว ดื่มเป็นประจำก่อนอาหารเช้า-เย็น หรือตักน้ำหมักไปดองไข่ไก่ดิบตามสูตรข้างบนก็ได้ครับ (สูตร 1-3-5 คือ น้ำตาลทรายแดง 1 กิโลกรัม ของที่จะเอาหมัก 3 กิโลกรัม น้ำ 5 ลิตร)
By: Thanawut
Ambrocia ตรา แอมโบรเซีย PINEAPPLE CIDER PREMIUM สับปะรดไซเดอร์ระดับพรีเมี่ยม
ผมซื้อที่ฟู้ดแลนด์ขวดละ 60 บาท ทานผสมน้ำผึ้งอย่างละ 1 ช้อนโต๊ะต่อน้ำ 1 แก้วก่อนอาหารเช้า-เย็นทุกวันเกือบ 2 เดือนแล้ว ความดันลดเหลือ 120 กว่าๆ ภูมิแพ้เจออากาศเปลี่ยนน้ำมูกไหลจามตลอดเริ่มหายกว่า 80% เป็นแผลโดนมีดบาดหายไว 1-2 วันแผลแห้งสนิท แรกๆทานยากหน่อยรสมันเปรี้ยวๆแต่ก็หอมน้ำผึ้ง ตอนนี้ชินแล้วครับกินได้สบายๆ (ถ้าชอบแบบซ่า..ซ่า..ให้เปลี่ยนน้ำเป็นโซดาวันเวย์ยี่ห้ออะไรก็ได้ 1 ขวด แบบแช่เย็นเจี๊ยบ)
@ เชิญเข้าไปดูภาพเว็บนี้...แล้วลากลงไปล่างสุดครับ
@ สาเหตุที่มึงป่วย...เพราะ...โง่...
By ตัวดำแต่ใจแดง: ผมขอเพิ่มเติมประสบการณ์ที่ได้พบกับตัวเอง เพื่อมาบอกเป็นแนวทางกับเพื่อนๆ...คือที่จริงแล้วผมเอง "ไม่ใช่" คนที่จะเชื่ออะไรกับใครได้ง่ายๆหรอกนะครับ...ทุกอย่างที่ผมคิดและทำ จะต้องมีเหตุและผลมารองรับ ว่าจะเป็นไปได้หรือไม่??? เสมอๆ...
น้ำหมักผลไม้หรือสมุนไพร ไม่ว่าจะเป็นสูตรจากป้าเช็ง หรือน้ำส้มสายชูหมักก็ตาม...เปรียบไปแล้ว...มันก็มี "สารที่เกิดจากการหมัก" เป็น "แอลกอฮอล์ธรรมชาติ" ที่มี "จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ปะปนอยู่ในนั้นด้วย" อย่างหนึ่ง...
ที่ว่าชนิดไหนมีประโยชน์ ชนิดไหนจะเป็นโทษ ผมเองไม่ได้จบมาทางชีวะวิทยาโดยตรง...แต่ก็ได้อ่านหนังสือเป็นความรู้ผ่านมาบ้างเล็กน้อยว่า ในธรรมชาติของเรา...ส่วนใหญ่จะเป็นจุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายและสิ่งมีชีวิต มากกว่าชนิดที่ให้โทษอยู่มากมายนัก...(เคยอ่านจากหนังสือการค้นพบจุลินทรีย์ EM ที่เป็นน้ำหมักชนิดหนึ่งที่เน้นในเรื่องการทำการเกษตร บำรุงดิน และทำความสะอาดในคอกของสัตว์เลี้ยง ซึ่งต่อมาได้พัฒนาช่วยในการเลี้ยงกุ้งและสัตว์เลี้ยงอื่นๆ เช่น หมู และไก่เนื้อ ไปจนถึงไก่ไข่ แข็งแรง มีสุขภาพดี ไม่เป็นโรค นี่เฉพาะ ที่พูดถึงจุลินทรีย์ EM นะครับ)
มาพูดถึง น้ำหมักผลไม้หรือสมุนไพรกันต่อ เราสามารถทำได้เอง หาวัตถุดิบและอุปกรณ์ทุกอย่างได้เอง โดยไม่จำเป็นที่จะต้องไปซื้อกับป้าเช็งเลยก็ยังได้
สรุปว่าหาวัตถุดิบและอุปกรณ์ที่ตลาดใกล้ๆบ้าน ซึ่งก็หาได้ง่ายและมันก็ไม่ได้แพงอะไรนักหนาน่ะครับ นำมาหมัก จนได้อายุ อย่างน้อยที่จะเอามาใช้ได้เนี่ย ก็ซัก 4 เดือนขึ้นไป ก็ใช้ได้แล้วล่ะครับ...
เมื่อเราได้น้ำหมักมาแล้ว ถ้าเราเอามาใช้ "ดื่มกินแต่พอดี" ไม่มากจนเกินไป มันก็เหมือนกับเรา "กินไวน์ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย" น้ำหมักผลไม้หรือสมุนไพรดังกล่าวก็จะเข้าไปช่วย "ปรับสภาพ" ความเป็นกรด เป็นด่างในร่างกาย ในเส้นเลือด เช่น ช่วยชะล้างไขมัน ที่เข้าไปเกาะอยู่ตามผนังของเส้นเลือด ทำให้เส้นเลือดสะอาดขึ้น เลือดเดินทางได้สะดวกขึ้น
เมื่อเลือดเดินทางได้สะดวกขึ้น เลือดก็นำสารอาหารที่เป็นประโยชน์ไปเลี้ยงเซลล์ที่อยู่ตามส่วนต่างๆของร่างกายได้ดียิ่งขึ้น นั่นก็จะเป็นผลที่ทำให้ร่างกายของคนเราแข็งแรง และไม่ล้มเจ็บ หรือว่าป่วยไข้ได้ง่ายๆนั่นเอง เป็นการใช้ "น้ำหมัก" ที่เป็นอาหารที่ได้จากธรรมชาติ เข้ามาเพื่อปรับสมดุลภายในของร่างกาย เพื่อให้เม็ดเลือดแดง ที่เปรียบไปแล้วก็เป็นทหารฝ่ายส่งกำลังบำรุง เกิดการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
เมื่อเซลล์ต่างๆในร่างกาย ได้รับอาหารเต็มที่มากยิ่งขึ้น ร่างกายของเราก็สามารถผลิตเซลล์เม็ดเลือดขาว ซึ่งเปรียบไปก็เสมือนกับ "นักรบ" ที่จะคอย "ต่อสู่กับเชื้อโรคต่างๆ" ที่เข้าสู่ร่างกาย ได้ดียิ่งขึ้น...ทำให้เราไม่เจ็บไข้ได้ป่วย สุขภาพของเราก็เลยแข็งแรงนั่นเองแหละครับ!!!
